ในยุคนี้เรามักจะพบเจอ กับความเห็นต่างทางความคิดของคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเดิมแทบจะทุกมิติของการใช้ชีวิต เรียกได้ว่าเป็นยุคเปลี่ยน ผ่านทางความคิดอ ย่ างแท้จริง อ ย่ างเรื่องการเ งิ นในครอบครัวก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ยังคงถกเถียงกันวนไปไม่ได้ข้อสรุป
บางกลุ่มก็มองว่าเมื่อเราทำงานได้แล้วเราก็ต้องเลี้ยงดู อุปการะพ่อแม่ ผู้มีพระคุณ หรือหยิบยื่นความช่วยเหลือทางการเ งิ นให้พี่น้องที่ต้องการใช้เ งิ น ขณะที่บางกลุ่มก็มองว่า แค่ลำพังเลี้ยงตัวเองยังเอาตัวจะไม่รอ ดเลย ทำไมเราจะต้องแบกรับภาระการเ งิ นของครอบครัวด้วย
ทั้งที่เรื่องการวางแผนการเ งิ น ควรจะเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องดูแลตัวเองให้ได้ ซึ่งทั้งสองแนวคิดนี้ก็มีข้อ ดีข้อจำกัด แตกต่างกันออ กไป ไม่มีแนวคิดไหนดี หรือ แ ย่ กว่ากันไปทั้งหมดในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เป็นตัวกำหนดการกระทำของแต่ละคน
คงจะหนีไม่พ้นพื้นฐานของครอบครัว ถ้าใครอยู่ในครอบครัวที่ไม่ต้องให้ลูกหลาน มาอุปการะเลี้ยงดู ก็อาจจะไม่ต้องแบกรับ ภาระอะไรมากมาย แค่หาเ งิ นเลี้ยงตัวเองให้รอ ดก็พอ แล้วถ้าพอจะมีเ งิ นเหลือเก็บ จะมาดูแลพ่อแม่ด้วย ก็ถือเป็นเรื่องดีมาก
ที่จะทดแทนพระคุณของท่าน แต่ถ้าใครอยู่ในครอบครัวที่ยังมีค่านิยมว่าพ่อแม่ต้องพึ่งพาลูกได้ ลูกต้องอุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ ในย ามที่ลูก หาร า ยได้เองได้แล้ว และพี่น้องต้องช่วยเหลือเกื้อ กูลกันในเรื่องการเ งิ น ตรงนี้เราก็ต้องหาทางวางแผนการเ งิ นตัวเองให้เพียงพอต่อความรับผิ ดชอบที่มากขึ้น
ยิ่งถ้าเราเพิ่งเริ่มทำงาน ได้ไม่น าน ยังมีร า ยได้น้อยอยู่ ก็จำเป็นต้องวางแผนการเ งิ น ให้มีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยลองทำต าม 5 ขั้ น ต อ นการวางแผนการเ งิ น สำหรับคนเ งิ นเดือนน้อย แต่มีภาระหนักอึ้งที่ต้องรับผิ ดชอบ ว่าควรต้องทำยังไงกันบ้าง จะเริ่มวางแผนการเ งิ นจากตรงไหนดี
5 ขั้ น ต อ นวางแผนการเ งิ น ฉบับคนเ งิ นเดือนน้อย แต่ภาระหนักอึ้ง
1. ปรับไลฟ์สไตล์การใช้เ งิ น ล ดร า ยจ่ายที่ไม่จำเป็น
หลังจากกำหนดสัดส่วนการใช้เ งิ น สำหรับค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทแล้ว เราอาจจะเหลือเ งิ นไว้ใช้จ่ายในแต่ละวันค่อนข้างน้อย ตรงนี้เราก็ควรที่จะปรับไลฟ์สไตล์การใช้เ งิ นของเราแล้วล่ะ ลองดูว่าค่าใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็น ก็ตัดออ ก หรือจ่ายให้น้อยลง
และถ้าสามารถเตรียมอาหารไปกิน ที่ทำงานได้ ก็จะช่วยล ดร า ยจ่ายได้อีกทางหนึ่ง เรียกว่าเป็นการบริโภคต ามฐานะ เอาไว้มีเ งิ น มากขึ้น ห า ยใจ ห า ยคอได้คล่องขึ้น เราค่อยเพิ่มงบสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ให้มีความสุขมากขึ้น ต ามฐานะทางการเ งิ นที่มั่นคง
2. จัดสรรเ งิ นที่เหลือให้ลงตัว กำหนดสัดส่วนการใช้จ่ายให้ชัดเจน
นำเ งิ น 90เปอร์เซน ที่เหลือ มาเตรียมสำหรับใช้จ่าย โดยลองลิสต์ดูว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่เราต้องรับผิ ดชอบ เริ่มจากค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่สามารถหาทางประหยัดได้มากกว่านี้ แล้วในทุกเดือน เช่น ค่าเช่าที่พัก ค่าเดินทางไปทำงาน แล้วค่อยนำส่วน ที่เหลือมาจัดสรรไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่ผันแปรต ามการใช้จ่ายของเรา เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่ากิน และค่าใช้จ่ายเพื่อให้รางวัลตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละเดือน ให้เราได้มีกำลังใจสู้ต่อไป
3. หักเ งิ นออมไว้ก่อน 10เปอร์เซน ของร า ยได้
ตรงนี้ขอย้ำว่าจำเป็น มาก และเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็น อ ย่ างแรกในการวางแผนการเ งิ น เพราะต่อให้เราจะมีร า ยได้น้อยแค่ไหนก็ต าม ถ้าเราไม่เริ่มต้นด้วยการหักเ งิ นออมไว้ก่อน แล้วนำไปลงทุนหาผลตอบแทนที่เหมาะสม เราก็จะไม่มีทางมีอิสรภาพทางการเ งิ นได้เลย แล้วพอเราเริ่มมีร า ยได้มากขึ้น ก็อาจจะขยับสัดส่วน การออมเ งิ นเพิ่มขึ้นไปเป็น 15เปอร์เซน หรือ 20เปอร์เซน โดยแบ่งสัดส่วนการออมต ามเป้าหมายของเรา ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ออมเพื่อซื้ อบ้าน แต่งงาน หรือเกษียณ เพื่อจะได้เลือ กลงทุนให้เหมาะสมกับแต่ละเป้าหมายที่เราตั้งไว้
4. จำกัดความช่วยเหลือ ด้วยทางเลือ กอื่นที่ไม่ต้องใช้เ งิ น
ในเมื่อเรามีเ งิ นจำกัด และก็จัดสรรปันส่วน ในการใช้จ่ายและดูแลพ่อแม่แบบรัดเข็มขัดสุด ๆ แล้ว ถ้ายังต้องมีเรื่องให้เราต้องยื่น มือเข้าไปช่วยเหลือ คนในครอบครัวอีก เราก็คงไม่มีเ งิ นเพียงพอที่จะให้ ตรงนี้อาจจะลองมองหาทางช่วยด้านอื่นที่ไม่ต้องใช้เ งิ นดูบ้าง
เช่น ช่วยหางานที่ดีให้ ช่วยถ่ายทอ ดความรู้ที่จำเป็น ลงแรงช่วย แทนการให้เ งิ น หรืออาจจะช่วยหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อ ย่ างข้อมูลสินเชื่อที่มี ภาระดอ กเบี้ยไม่สูง แล้วให้คนเหล่านั้นได้สู้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง อ ย่ างน้อยเราก็ได้ช่วยทุกคนอ ย่ างเต็มที่แล้ว
5. ป้องกันร า ยจ่ายที่ไม่คาดคิด ด้วยหลักประกัน สุ ข ภ า พ
เพื่อไม่ให้ค่ารั ก ษ าพย าบาล ของเราและคนในครอบครัวที่เราดูแล มากระทบต่อ การวางแผนการเ งิ น ทำให้มีปัญหาทางการเ งิ นซ้ำซ้อน ย ากที่จะแก้ไข โดยในช่วงแรก ถ้าเราไม่มีเ งิ นพอที่จะซื้ อประกัน สุ ข ภ า พ เราก็อาจจะใช้สิทธิ์ของรัฐไปก่อน เช่น ประกันสังคม
หรือสิทธิหลักประกัน สุ ข ภ า พ 30 บาท (บัตรทอง) ลองดูว่าคนที่เราต้องดูแล สามารถรับสิทธิ์ไหนได้บ้าง เพราะอ ย่ างน้อยก็ช่วยล ดภาระค่าใช้จ่าย เมื่อเกิดเหตุด้าน สุ ข ภ า พ ขึ้นได้ แล้วถ้าร า ยได้เรามากขึ้น ก็หา ประกัน สุ ข ภ า พ ที่ให้ความคุ้มครอง และดูแลทุกคนได้ดีขึ้น
ใครที่อ่าน มาถึงตรงนี้ แล้วรู้ว่าตัวเองมีภาระที่ ต้องแบกรับไว้ค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่บ้าน ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ ค่าที่พัก ค่าเดินทางไปทำงาน ในขณะที่ยังมีร า ยได้น้อยอยู่ อ ย่ าเพิ่งท้อใจไป ลองนำ 5 ขั้ น ต อ นนี้ ไปปรับใช้ในการวางแผนการเ งิ นส่วนตัว ให้เราได้เอาตัวรอ ดให้ได้
ขอแค่เรามีการวางแผนการเ งิ นที่ดี และการรู้จักรั ก ษ าวินัย ในการใช้เ งิ นจะช่วยให้เราจัดสรรการใช้จ่ายได้เอง ถึงแม้จะมีเ งิ นน้อยอยู่ก็ต าม ถ้ามีตรงไหนที่คิดว่าทำไม่ได้ ก็ลองหาวิ ธีที่เข้ากับสไตล์ของตัวเรามากขึ้น เพราะสุดท้าย ต่อให้แผนดีแค่ไหน แต่ถ้าปฏิบัติไม่ได้จริง ก็ไม่มีประโยชน์ เราจึงต้องดูที่ผลลัพธ์เป็นหลัก
แล้วถ้าจะหามุมมอง ที่เป็นด้านบวกจากเรื่องนี้ ก็คงจะเป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่เราจะเอาตัวรอ ดได้ด้วยเ งิ นเดือนอันน้อยนิด แต่มีภาระหนักอึ้งที่ต้องรับผิ ดชอบ ด้วยการวางแผนการเ งิ นที่มีประสิทธิภาพ ขอบอ กเลยว่าถ้าใครสามารถผ่าน สถานการณ์นี้ไปได้ เมื่อถึงวันหนึ่งที่เรามีร า ยได้มากขึ้น เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ อ ย่ างแน่นอน
ที่มา k r u n g s r i yindeeyindee