การเดินทางบนท้องถนน เราต้องเปิดใจให้กว้างก่อน เ พ ร า ะไม่ได้มีรถเราใช้อยู่คันเดียว ดังนั้นถนนแต่ละเส้นก็จะมีรถนานาชนิด หล า ยๆขนาดใช้ถนนร่วมอยู่ด้วย และการขับขี่แต่ละชนิดก็จะไม่เหมือนกัน ควรศึกษากฎจราจรและปฏิบัติต ามอย่ า งเคร่งครัด
แต่มีรถอีกชนิดหนึ่งที่เรามักเจอต ามทางหลวงเส้นหลัก นั่นก็คือ รถบ ร ร ทุ ก ซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่การใช้ถนนจึงลำบากกว่ารถชนิดอื่นๆ ดังนั้นคนใช้รถชนิดนี้จะมีการส่งสัญญาณเพื่อให้รถคันอื่นๆรับทราบก่อน เ พ ร า ะเวลาจะเปลี่ยนเลนทีก็ทำได้ไม่คล่องตัวเหมือนรถเล็ก หากรถเล็กไม่ร ะ วั ง ก็จะทำให้เกิดอุ บั ติ เ ห ตุ ขึ้น มาได้ วันนี้เราจะมาศึกษาเรียนรู้สัญญาณไฟจากรถบ ร ร ทุ กกัน
1 ร ะ วั งข้างหน้า ชะลอความเร็ว
หากเห็นว่ารถบ ร ร ทุ กที่ขับอยู่ด้านหน้าเรานั้น เปิดไฟเลี้ยวซ้ายทีขวาทีสลับกันไปมา นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอ กว่าให้เราร ะ วั ง และชะลอความเร็วลง เ พ ร า ะเขากำลังจะเบรค หรือชะลอความเร็วด้วยเช่นกัน ไม่ว่าข้างหน้ารถบ ร ร ทุ กจะเกิดเหตุการณ์อะไร หากเราเห็นสัญญาณนี้ ห้ามแซงโดยเด็ดข า ด และควรวิ่งด้วยความเร็วต่ำระมัดร ะ วั งในการขับให้มากขึ้น
2 ขอทางเพื่อไปตรง
เมื่อเห็นรถบ ร ร ทุ กกำลังออ กตัวตรงสี่แยก ให้เรามองดีดีว่าเขาได้ให้สัญญาณไฟมาหรือเปล่า พวกสัญญาณเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเราคงทราบดีอยู่แล้ว แต่หากเห็นรถบ ร ร ทุ กเปิดไฟฉุ ก เ ฉิ นนั่นหมายถึงว่า เขาขอทางเพื่อจะไปในทางตรง เราก็ขับต ามไปได้เลย เ พ ร า ะเขาจะไม่เลี้ยวนั่นเอง
3 ช่วยส่องไฟให้เห็นทาง
ในเวลากลางคืนถนนจะมืดเป็นพิเศษ หากเราขับรถจะแซงรถบ ร ร ทุ กขึ้นในเลนขวา รถบ ร ร ทุ กก็จะยกไฟสูง เพื่อส่องเส้นทางข้างหน้าให้เราเห็นได้ชัดเจน บ่งบอ กว่าข้างหน้าถนนว่าง และเป็นการให้สัญญาณกับรถที่วิ่งสวน มาด้วย พอเราแซงได้พ้นแล้วจนเข้าเลนได้แล้ว เขาก็จะทำการดับไฟลงเ พ ร า ะไม่จำเป็นต้องใช้อีก
4 แซงได้เลยทางสะดวก
ถ้าระหว่างที่เราขับรถต ามรถบ ร ร ทุ ก แล้วเขามีการเปิดไฟเลี้ยวซ้าย ขับแอบเข้าไหล่ทางด้านซ้ายเล็กน้อย นั่นคือสัญญาณที่เขาจะบอ กว่า แซงได้เลย ข้างหน้าไม่มีรถ ถนนโล่ง สามารถแซงได้อย่ า งปลอ ดภั ย ก็ให้เราขึ้นแซงไปในทางด้านขวาของตัวรถบ ร ร ทุ กได้เลย
5 ข้างหน้ามีเหตุเกิดขึ้น
หากเราขับวิ่งสวนเลนกับรถบ ร ร ทุ ก แล้วเขาเปิดไฟสูงกระพริบใส่เราหล า ยๆครั้ง นั่นแสดงว่าเขาจะบอ กกับเราว่า ทางข้างหน้าเรานั้น มีด่านตรวจ อุ บั ติ เ ห ตุ หรือมีอะไรเกิดขึ้นทำให้การจราจรติดขัด ขับรถลำบาก ก็ให้เราเตรียมตัวที่จะรับมือ กับเหตุการณ์ที่จะต้องเจอด้วย ที่เขาบอ กเ พ ร า ะเขาผ่ า น มาแล้วนั่นเอง
6 ห้ามแซงเด็ดข า ด
ถ้าเราขับรถต ามรถบ ร ร ทุ กแล้วเกิดอย า กแซงขึ้น มา แต่รถบ ร ร ทุ กข้างหน้ากลับเปิดไฟเลี้ยวขวาขึ้น ให้เราชั่งใจตัวเองไว้ก่อน เ พ ร า ะนั่นเป็นสัญญาณว่าเขาไม่ให้แซง อาจเกิดจากข้างหน้าเป็นทางโค้ง หรือมีรถสวน มาอยู่ หากเรายังดื้อรั้นจะแซงขึ้นไปรับรองว่าเกิดเหตุแน่ ให้เรารอจนกว่ารถบ ร ร ทุ กจะตบไฟเลี้ยวซ้าย นั่นแสดงว่าทางข้างหน้าโล่ง สามารถแซงได้โดยปลอ ดภั ย
7 กระพริบไฟขอทาง
ส่วน มากเวลารถบ ร ร ทุ กใช้ถนนหล า ยๆคัน มักจะวิ่งต่อแถวกัน มาเป็นตอนเดียว แต่หากเราเห็นรถบ ร ร ทุ กแตกแถวออ กมา แล้วกระพริบไฟใส่เรา 1 ครั้ง นั่นแสดงว่าเขากำลังจะแซงรถคันข้างหน้า และอย า กจะขอใช้เลนตรงกันข้ามซึ่งเป็นเลนของเรา หากเราพร้อมที่จะให้เขาใช้ทางเพื่อแซง ก็ให้กระพริบไฟตอบเขา 1 ครั้งเช่นกัน
8 เช็คเพื่อนร่วมทาง
เวลาที่เราขับรถอยู่ดีดี เกิดมีรถบ ร ร ทุ กที่สวน มากระพริบไฟใส่เรา 1-2 ครั้ง นั่นเป็นการตรวจสอบว่าเรายังมีสติครบถ้วนอยู่หรือเปล่า หรืออีกนัยหนึ่งเขาก็เพียงอย า กถามว่าทางที่เราผ่ า น มาราบรื่นดีไหม เกิดเหตุ หรือมีการตั้งด่านตรวจอยู่หรือเปล่า ถ้าทางที่เราผ่ า น มานั้นเป็นปกติดี ก็ให้เรากระพริบไฟหน้า 1 ครั้ง เพื่อเป็นสัญญาณตอบกลับว่าทุกอย่ า งโอเค
การเกิดอุ บั ติ เ ห ตุ ที่เกิดจากรถบ ร ร ทุ กส่วนใหญ่ นั่นก็เ พ ร า ะเราไม่เข้าใจสัญญาณต่างๆที่เขาแสดง แล้วก็ทึกทักเอาเองว่ารถบ ร ร ทุ กมักขับรถไม่ดี กระพริบไฟใส่ทำไมเกเร แต่จริงๆแล้วนั่นคือความหวังดีที่คนใช้รถใช้ถนนควรมีต่อ กันต่างหาก ถ้าเข้าใจแล้ว ก็ส่งสัญญาณตอบให้พี่รถบ ร ร ทุ กเขาบ้างนะ จะได้ปลอ ดภั ย ด้วยกันทั้งคู่
ที่มา Postsod krustory