การเอาตัวรอ ดในสังคมไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เห็นแก่ตัวตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าเรากำลังตกอยู่ในช่วงข้าวย ากหมากแพงอ ย่ างแท้จริงแม้แต่สายการบินแห่งชาติของประเทศแถวๆ นี้ที่ได้ รับการยอมรับมานานว่าเป็นอันดับหนึ่งด้านการบินของประเทศก็น่าจะไม่รอ ดในอนาคตอันใกล้นี่แล้วล่ะต้องบอ กว่าความแน่นอนคือสิ่งที่ไม่แน่นอน จริงๆคงไม่ดีแน่ถ้าคุณเอาแต่งอมืองอเท้า ไม่เตรียมรับมือหรือพัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่จะทำให้คุณเอาตัวรอ ดจากสถานการ ณ์นี้ได้ ไม่มีอะไรแน่นอนอยู่แล้วล่ะ
11 วิถีของคนรู้จักเอาตัวรอ ดเป็น
1. ผัดวันประกันพรุ่ง
คนฉลาดจะผัดวันประกันพรุ่งจากงานที่ทำประจำวันหรือทำซ้ำๆ ในเวลาที่เขาพบเป้าหมายหรือสิ่งที่สำคัญกว่า นักจิตวิทย ากล่าวว่า นี่คือหัวใจของการสร้างสรรค์นวัตกรร มเลย ก็ว่าได้ตัวอย่ างเช่น เมื่อ สตีฟ จ็อบส์ ต้องการหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ เขาจะใช้เวลาไป กับการ ถกเถียงเพื่อหาไอเดียที่แตกต่างและพร้อมจะหันหลังให้กับไอเดียพื้นๆ หรือ อะไรที่คนอื่นๆ ก็สามารถเดาได้
2 หัดคุยกับตัวเองบ้ าง อยู่กับตัวเองบ้ าง
คนที่ฉลาดจะมีความเป็นปัจเจกบุคคล ซึ่งคาดเดาได้ว่าพวกเขาอาจใช้เวลาเหล่านั้นขบคิดคำถาม หรือบางเรื่องที่ตัวเองกำลังสนใจ สัมพันธ์กับในชีวิตจริงที่หล า ยครั้งเราเกิด ปิ๊งไอเดียขึ้น มาในเวลาที่อยู่คนเดียว
3. เรียนรู้ราวกับเป็นนักศึกษาอยู่ตลอ ดเวลา
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยพูดถึงตัวเองว่า ผมไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร ผมเป็นแค่คนอย ากรู้อย ากเห็นแค่นั้นเอง งานวิ จั ยตีพิมพ์ปี 2016 ระบุว่าการ ได้เปิดโลกในวัยเ ด็ ก สัมพันธ์กับความสนใจใคร่รู้ในตอนเป็นผู้ใหญ่
4 เข้าเมืองต าหลิ่ว ต้องหลิ่วต าต าม
คนที่ฉลาดมักจะมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ดีในสถานการณ์ต่างๆ โดยไม่หวั่นไหวกับความไม่ชัดเจนหรือข้อจำกัดใดๆ มีผลงานวิ จั ยด้านจิตวิทย าออ กมาสนับสนุนว่า สติปัญญา สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรร มเพื่อรับมือ กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
5 แกล้งโ ง่บ้ าง ถึงแม้บางอ ย่ างจะรู้แล้ว แต่จำไว้เสมอว่าความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่กลัวที่จะพูดว่า ฉันไม่รู้ และพร้อมจะเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ เพราะคนที่ไม่ฉลาด จะประเมินความสามารถตัวเองสูงกว่าความเป็นจริงจากผลการทดลองระบุว่านักเรียนกลุ่มที่ได้ คะแนนต่ำที่สุดจากการให้ลองทำข้อสอบประเมินคำตอบที่ตัวเองจะตอบถูกได้เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นักเรียนกลุ่มที่ได้คะแนนสูงสุดประเมินได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงกว่ามาก
6. มีวินัยในการทำทุกสิ่งทุกอ ย่ าง
ความมีวินัย หรือ ความสามารถในการควบคุมตัวเอง Self-Control มีความเกี่ยวข้องกับความฉลาด จาก ก า ร ศึกษาทดลองในปี 2009 ได้ให้ผู้ร่วมทดลองเลือ กระหว่างการ ได้รับเ งิ นจำนวนหนึ่งทันทีหรือ รอรับเ งิ นก้อนใหญ่ภายหลัง ปรากฏว่าผู้ร่วมทดลองที่เลือ กรอรับเ งิ นก้อนใหญ่ มักจะทำคะแนนในการทดสอบสติปัญญาได้สูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง
7. เชื่อมโยงความคิดในเรื่องต่างๆ ได้
คนฉลาดจะมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เพราะว่าพวกเขาสามารถเชื่อมโยงความคิดจากเรื่องที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกันได้ อาทิ คุณคิดว่าซาชิมิกับแตงโมเหมือนกันตรงไหน คำตอบคือ ทั้ง 2 อย่ างต้องกินตอนที่ ดิบ และ เย็น เหมือนกันถึงจะอร่อย
8. มองโลกให้กว้างๆ อ ย่ าเป็นคนใจแคบ
คนที่ฉลาดจะไม่ปิดกั้นตัวเอง เมื่อมีโอกาสหรือไอเดียใหม่ๆ เข้ามา เขามักจะมองหาทางเลือ กแล้วชั่งน้ำหนักเพื่อหาเหตุผลที่ดีที่สุด คนเหล่านี้จะเ ก ลี ย ดการยอมรับอะไรง่ายๆ เขาจะหาคำตอบจนกว่าจะมีหลักฐานที่ยืนยันได้จริงๆ เท่านั้น
9.มีอารมณ์ขัน และยิ้มแย้มให้ผู้อื่นเสมอ
คนที่มีอารมณ์ขันส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่ฉลาด มีงานศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า คนที่ทำคะแนนการเขียนคำบรรย าย การ์ตูนตลกได้สูง เยอะๆ จะเป็นคนที่ฉลาดด้านการใช้ภาษา ขณะที่งานศึกษาอีกชิ้นระบุว่า นักแสดงตลกมักจะทำคะแนนความฉลาดทางด้านภาษาได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป
10. เอาใจใส่คนรอบข้าง
คนที่เอาใจใส่ในเรื่องความต้อง การความรู้สึกของผู้อื่น และทำในสิ่งที่คนเหล่านั้นต้องการคือคนที่ฉลาดทางอารมณ์ ขณะเดียวกัน ความฉลาดทางอารมณ์ยังหมายถึง ความสนใจ ที่จะเข้าไปพูดคุยกับผู้คนใหม่ๆ และพร้อมที่เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากคนที่คุยด้วยคอนเนคชั่นที่ดีทำให้คุณอยู่รอ ดได้ทุกสถานการณ์ คอนเนคชั่นดีหมายถึงคุณก็ต้องดีและทำให้เหล่าคนที่
คุณรู้จักไว้วางใจด้วย ย ามเดือ ดร้อนหรือย ามรุ่งเรืองเขาจะได้ช่วยเหลือ กับสนับสนุนคุณทั้งขึ้นทั้งล่องยังไงล่ะคุณต้องรู้จักเปิดรับสังคมใหม่ๆ ตั้งแต่วันนี้เลยโดยเฉพาะย ามที่เจอ กับบุคคล ที่มีความรู้ความสามารถและเป็นคนดี เพื่อนที่ดีและเก่ง เพื่อนร่วมงานคุณwาพ ฯลฯ จงอ ย่ าเ สี ยเวลากับคนที่มัวแต่ทำให้คุณไร้ส า ระไปวันๆ เพราะมันเ สี ยเวลา เลือ กคบคนเอาไว้ดีที่สุด
11. ใคร่ครวญกับคำถามย ากๆและมองว่ามันเป็นเรื่องที่ท้าทาย
คนฉลาดมักจะมีคำถามเกี่ยวกับจักรวาลและความหมายของชีวิต พวกเขามักจะกระวนกระวายกับเรื่องเหล่านี้ที่อาจ จะมีส่วนจริงอยู่บ้ าง เพราะปราชญ์ในโลกนี้ล้วนแต่ตั้งคำถามพื้นๆ ที่ว่าชีวิตคืออะไรของแบบนี้เรามองว่ามันต้องประสบเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ า ยหรือ ดี จะเกิดการเรียนรู้ และแกร่ง ไปเองโดยอัตโนมัติเอาเป็นว่า มองคนอ ย่ ามองด้านเดียว เหรียญมีสองด้าน
ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้นคนเราก็เช่นกันค่ะ คนดีที่เราเห็นอาจจะมีมุมร้ า ยซ่อนอยู่เช่นเดียวกับคนที่เรามองไม่ดีก็อาจมีมุมดีๆ ซ่อนอยู่เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าเเต่ละคนจะหันด้านไหนให้เราเห็นค่ะ เพราะฉะนั้นจงมีสติในการมองคนอ ย่ าด่วนตัดสินใจ บางสิ่งพลาดแล้วแก้ไขได้แต่บางสิ่งอาจจะไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สองค่ะ
ที่มา s i a m e d t a r o fahhsai