หล า ยคนไม่เคยรู้ 4 สิ่งเมื่อฝากเ งิ นไว้กับธนาคาร

หากเราเก็บเ งิ นได้สักก้อน สิ่งที่เราจะคิดถึงเมื่ออ ย า กจะเก็บเ งิ นเอาไว้ ก็คงเป็นการฝากธนาคาร เพื่อจะได้สร้างฐานเครดิตต่อยอ ดทำธุรกิจอื่นๆได้ และการฝากเ งิ นไว้กับธนาคารก็ยังให้รู้สึกปลอ ดภั ย ด้วยความน่าเชื่อถือที่มีมาตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณ ย่ า แต่มองอีกนัยหนึ่ง ธนาคารไม่ได้ปลอ ดภั ย อ ย่ า งที่คิด หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การที่เราเอาเ งิ นไปฝากธนาคารเอาไว้ อาจทำให้เราสูญเ สี ยเ งิ นเก็บเราไปทั้งหมดได้

1 เ สี ยโอกาส

การที่เรานำเ งิ นสดฝากธนาคารเ สี ยทั้งหมด เป็นผลดีเมื่อเราต้องการจะใช้เ งิ น ย า มฉุ ก เ ฉิ น ก็จริง แต่หากฝากมากจนเกินไปก็จะทำให้เราเ สี ยโอกาสในการล ง ทุ นด้วยเช่นกัน หล า ยคนกลัวกับการล ง ทุ น กลัวว่าจะข า ดทุนไม่มีกำไร แต่จากสถิติพบว่า หากเราใช้เวลาในการล ง ทุ นนาน มากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะข า ดทุนน้อยลงเท่านั้น กล่าวคือ ถ้าเราล ง ทุ นเ สี ยตั้งแต่ตอนนี้ เราก็จะมีเวลาล ง ทุ นเพิ่มมากขึ้น โอกาสข า ดทุนก็จะน้อยลง มีผลกำไรเข้ามาเป็นเวลานาน แค่ใช้เ งิ นเพื่อทำงาน เริ่มต้นเ สี ยแต่วันนี้ ต่อไปจะได้สบาย และไม่ต้องเ สี ยโอกาสในการล ง ทุ น

2 ยิ่งฝากยิ่งห า ย

แม้ว่าการฝากเ งิ นจะสามารถรั ก ษ า เ งิ นต้นไว้ได้เท่าเดิมโดยไม่สูญห า ยไปไหน แต่อ ย่ า ลืมว่าเมื่อเวลา ผ่ า นไปทุกๆปี ค่าของเ งิ นก็จะลดต่ำลงไปด้วย เขาเรียกกันว่า เ งิ นเฟ้อ ซึ่งของ ไ ท ย จะอยู่ที่ 3เปอร์เซน ต่อ ด อ ก เบี้ยเ งิ นฝากทั่วไป แม้ปัจจุบันจะน้อยกว่า 3เปอร์เซน ไปบ้างแล้ว แต่พอเอามาคิดค่าเ งิ นต้นที่นำฝากไว้ในตอนแรก ยังไงค่าของเ งิ นปัจจุบันก็ยังน้อยกว่าอยู่ดี

ยกเหตุการณ์ให้เห็นภาพง่ายๆ มูลค่าเ งิ นต้นที่เรานำเอาไปฝากธนาคารจะมีจำนวนเท่าเดิม แต่หากนำมาซื้ อของปรากฎว่า ร า ค าของแพงขึ้นกว่าแต่ก่อน นั่นแหละคือ เ งิ นเฟ้อมากขึ้น จำนวนเ งิ นเท่าเดิม แต่ต้องเอามาจับจ่ายในร า ค าที่สูงขึ้นนั่นเอง

3 เสี่ยงแบงค์ล้ม

ทำไมรุ่นคุณปู่คุณ ย่ า ถึงบอ กว่าเอาเ งิ นไปฝากในธนาคารแล้วปลอ ดภั ย นั่นเป็นเพราะเมื่อก่อนนั้น พระราชกฤษฎีกาคุ้มครองเ งิ นฝาก ถ้าแบงค์ล้มเราจะได้เ งิ นคืนทั้งหมด แต่ในปัจจุบัน มันไม่ได้เป็นอ ย่ า งนั้นแล้ว เพราะพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนไป ไม่ได้คุ้มครองเ งิ นเราเต็มจำนวนเหมือนที่ ผ่ า น มา กล า ยเป็นว่าวงเ งิ นคุ้มครองจะค่อยๆลดลงจากเ งิ นต้นทั้งหมด ซึ่งก็แปลว่าเ งิ นของเราไม่ได้ปลอ ดภั ย 100เปอร์เซน

ดังนั้นสำหรับคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะบริหารเ งิ นกันเป็นส่วนๆ ไม่ได้เอาไปฝากในธนาคารเ สี ยทั้งหมด อาจจะเอาไปล ง ทุ นเพื่อให้มีกำไรงอ กงามแทนการรอ ด อ ก เบี้ยจากธนาคาร ถ้าผลการตอบรับการล ง ทุ นดี เราจะได้กำไรมากกว่าด อ ก เบี้ยจากธนาคารเ สี ยด้วยซ้ำ

4 ไม่เป็นไปต ามที่ฝัน

เราเคยคิดไหม ว่าเราเริ่มเก็บเ งิ นกันเพราะอะไร บางคนอ ย า กมีบ้าน บางคนอ ย า กมีรถ บางคนอ ย า กเอาไปเที่ยว หรือบางคนเอาไว้ใช้ในบั้นปล า ยชีวิต แต่ด้วยเ งิ นเฟ้อต ามที่ได้อธิบายมาก่อนนั้น ก็จะทำให้ความฝันของเราริบหรี่ลงเรื่อยๆ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรเราก็ต้องจ่ายแพงขึ้น ต ามค่าเ งิ นที่ปรับเปลี่ยนไป

หากนำเ งิ นไปล ง ทุ น เพื่อรับผลกำไรต ามมูลค่าเ งิ น ณ เวลานั้นๆจะดีกว่า อ ย่ า งน้อยๆก็เป็นการเพิ่มเ งิ นทุนที่มีอยู่ ให้ได้กำไรต ามมูลค่าเ งิ นในปัจจุบัน จริงๆแล้วปัจจุบัน มีการใช้เ งิ นเพื่อเพิ่มผลกำไรได้มากมายหล า ยอ ย่ า ง เช่น เอาไปทำประกันชีวิต แบบสะสมท รั พ ย์ แบบที่ได้รับเ งิ นปันผล และยังมีบางแบบที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีก หรือจะเริ่มล ง ทุ นทำธุรกิจเล็กๆ เพื่อให้ได้ผลกำไรที่มากขึ้นในภายหน้า

สิ่งที่อ ย า กจะบอ กก็คือ อ ย่ า เอาเ งิ นทั้งหมดไปสะสมไว้ในธนาคาร เราควรกระจายเพื่อที่จะใช้ล ง ทุ น เพื่อลดความเสี่ยงจากสถาบันใดสถาบันหนึ่ง และหากมีเ งิ นสักก้อน ก็ควรนำมาล ง ทุ นให้เ งิ นทำงานแทนเรา ต่อไปเราก็แค่เพียงบริหารเ งิ นเหล่านั้นให้ดี ก็จะดีมากกว่าเอาไปฝากในธนาคารเพียงอ ย่ า งเดียว

ที่มา Parinyajai  krustory